Q - ลูก อนุบาล 3 เอาแต่เล่นแต่คุยพอเรื่องเรียน คิดเลข อ่านหนังสือ กลับไม่สนใจสักที กลัวลูกสอบเข้าชั้นประถมไม่ได้อยากทราบว่าตอนนี้โรงเรียนรัฐบาลใช้ข้อสอบแนวไหนในการสอบบ้าง จะได้เตรียมตัวให้ลูกถูกค่ะ
วจีพร/กรุงเทพฯ
A - โรงเรียน ที่เปิดรับสมัครเพื่อสอบเข้าเรียนต่อในระดับชั้นปีที่ 1 ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยซึ่งไม่ได้มีการจัดการเรียนการสอน ในระดับอนุบาล สำหรับโรงเรียนสังกัดการศึกษากรุงเทพมหานครและในต่างจังหวัดคือโรงเรียน เทศบาล ซึ่งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะมีการจัดการเรียนการสอนในระดับอนุบาล ดังนั้นจะได้ขึ้นชั้นประถมอยู่แล้ว แต่เปิดรับชั้น ป.1 เพิ่มต่อเมื่อมีนักเรียนไม่เต็มจำนวนเท่านั้น
การรับนักเรียนจะมีวิธีการแตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละโรงเรียนมีสิทธิ์กำหนดวิธีการเองเช่น การสอบสัมภาษณ์ การตรวจสอบเอกสารการเรียนในระดับอนุบาลที่ผ่านมา ใช้การจับฉลาก การสอบข้อเขียนซึ่งเป็นการวัดความสามารถในด้านสติปัญญาได้แก่ ความสามารถทางด้านการสังเกตรายละเอียด ความเหมือน ความแตกต่างของภาพ ความสามารถทางด้านมิติสัมพันธ์ การซ้อนภาพ ความสามารถในการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล ประเภทอนุกรม การใช้คำอุปมาอุปไมย ความสามารถด้านคณิตศาสตร์จำนวน ตัวเลข ความสามารถทางด้านภาษาการจับใจความ และความเข้าใจเรื่องราวที่ครูหมูกล่าวมาเป็นเพียงขอบข่ายแนวทางของตัวอย่าง ข้อนะคะ
สิ่งที่คุณควรเริ่มเตรียมตัวลูกก่อนสอบมีดังนี้
วินัย เตรียมเรื่องวินับให้ลูก หากลูกยังคงเอาแต่เล่นและคุย ไม่ชอบการอ่านหนังสือ คุณพ่อคุณแม่ต้องคุยและตกลงกับลูกนะคะ ให้เวลาลูกได้เล่นได้คุย และมีเวลาที่ลูกจะต้องตั้งใจคิด ตั้งใจทำงานจริงจัง อย่าใช้วิธีบังคับหรือลงโทษ ควรให้ลูกทำด้วยความสมัครใจ
สมาธิ ฝึกทำสมาธิก่อนนอนทั้งครอบครัว เพราะการทำสมาธิจะช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด เพราะการทำสมาธิจะช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด ความกังวลใจ ผู้ที่มีสมาธิดีจะพร้อมรับข้อมูลและเรียนรู้ได้ไว
เตรียมความรู้ หาข้อสอบเก่าๆ มาฝึกให้ลูกทำ โดยผู้ปกครองสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือ ทั้งนี้ ก่อนที่จะจบชั้น อ.3 โรงเรียนของลูกก็จะมีการเตรียมตัวทำข้อสอบให้เด็กเหมือนกันค่ะ
สนามสอบ พาลูกทำความคุ้นเคยกับสนามสอบก่อนวันสอบจริง เพื่อลดความตื่นเต้นและความกลัวสนามสอบ
โรงเรียนสาธิต โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยจะมีผู้สอบเข้าแข่งขันมากลูกต้องเตรียมตัวเป็นเวลานาน เพราะบางโรงเรียนมีข้อสอบเฉพาะทาง
ครูหมูขอแสดงข้อคิดนะคะ ลูกจะเก่งหรือดีอยู่ที่พ่อแม่มีส่วนสนับสนุนมากที่สุดหากส่งเสริมลูกอย่าง ถูกวิธี ดูแลใกล้ชิดเอาใจใส่ ให้เวลากับลูกอย่างเพียงพอ เพียงเท่านี้ลูกจะเริ่มต้นวัยประถมอย่างมีความสุขสุดท้ายของอวยพรให้เด็กๆ ได้เข้าโรงเรียนอย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ.
แหล่งที่มาของข้อมูล
นิตยสาร นิตยสารรักลูก ปีที่ 25 ฉบับที่ 290 มีนาคม 2550