STEM ศึกษา ได้รับความสำคัญอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลก โดยแต่ละประเทศมีแนวทางและนโยบายที่แตกต่างกันไปในการส่งเสริมและสนับสนุน การลงทุนในด้านการศึกษา การบูรณาการในหลักสูตร การสนับสนุนจากรัฐบาลและภาคธุรกิจ รวมถึงการจัดกิจกรรมและโครงการพิเศษต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและความรู้ในสาขา STEM ให้กับเยาวชน ได้รับความสำคัญในแต่ละประเทศแตกต่างกันไป แลยังขึ้นอยู่กับนโยบายการศึกษาและความต้องการของตลาดแรงงานในแต่ละประเทศอีกด้วย

ข้างล่างนี้ คือ ตัวอย่างการส่งเสริมและการให้ความสำคัญกับ STEM ในบางประเทศ

1. สหรัฐอเมริกา

นโยบายการศึกษา: สหรัฐอเมริกามีการลงทุนอย่างมาก โดยรัฐบาลกลางและรัฐต่างๆ มีโครงการและนโยบายที่สนับสนุนการเรียนการสอน STEM ในโรงเรียน
โครงการพิเศษ: มีโครงการพิเศษ เช่น STEM Education Coalition และ NASA STEM Engagement ที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการเรียนรู้ในสาขา STEM ผ่านการจัดกิจกรรมและการแข่งขัน
ทุนการศึกษา: มีการให้ทุนการศึกษาและการสนับสนุนทางการเงินแก่นักเรียนที่มีความสนใจในสาขา STEM 

2. สหราชอาณาจักร

การบูรณาการในหลักสูตร: สหราชอาณาจักรมีการบูรณาการการศึกษา STEM ในหลักสูตรการศึกษาและสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านโครงการต่างๆ เช่น STEM Ambassadors และ Tomorrow’s Engineers
การสนับสนุนจากภาคธุรกิจ: บริษัทใหญ่ในสหราชอาณาจักรมีการสนับสนุนการศึกษา STEM ผ่านการจัดโครงการพิเศษและการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะของนักเรียน
การวิจัยและนวัตกรรม: มีการสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมในสาขา STEM เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติ

3. เยอรมนี

การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ: เยอรมนีเน้นการเรียนรู้เชิงปฏิบัติและการฝึกทักษะวิชาชีพในสาขา STEM โดยมีโครงการเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนและภาคอุตสาหกรรม
การสนับสนุนจากรัฐบาล: รัฐบาลเยอรมนีมีการสนับสนุนการศึกษา STEM ผ่านการจัดตั้งศูนย์วิจัยและการให้ทุนการศึกษา
การบูรณาการในระบบการศึกษา: STEM ถูกบูรณาการในระบบการศึกษาทั้งในระดับประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย

4. ญี่ปุ่น

การพัฒนาทักษะเทคโนโลยี: ญี่ปุ่นมีการสนับสนุนการเรียนรู้ในสาขาเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์อย่างมาก โดยมีการจัดกิจกรรมการแข่งขันหุ่นยนต์และการเขียนโปรแกรม
การลงทุนในด้านการศึกษา: รัฐบาลญี่ปุ่นมีการลงทุนในด้านการศึกษา STEM โดยการจัดตั้งโครงการและทุนการศึกษาต่างๆ เพื่อพัฒนาความสามารถของนักเรียน
การสนับสนุนจากภาคธุรกิจ: บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ในญี่ปุ่นมีการสนับสนุนการศึกษา STEM ผ่านการจัดโครงการฝึกอบรมและการวิจัยร่วมกับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย

5. จีน

การบูรณาการในหลักสูตร: จีนมีการบูรณาการการศึกษา STEM ในหลักสูตรการศึกษาทุกระดับ และมีการจัดตั้งศูนย์วิจัยและเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้
การสนับสนุนจากรัฐบาล: รัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนการศึกษา STEM อย่างชัดเจน โดยมีการลงทุนในด้านการศึกษาและการวิจัยอย่างมาก
การเตรียมความพร้อมทางอาชีพ: การศึกษา STEM ในจีนเน้นการเตรียมความพร้อมทางอาชีพและการพัฒนาทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน

6. สิงคโปร์

การบูรณาการในหลักสูตร: สิงคโปร์มีการบูรณาการการศึกษา STEM ในหลักสูตรการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมถึงมัธยม และมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ STEM
การสนับสนุนจากรัฐบาล: รัฐบาลสิงคโปร์มีนโยบายสนับสนุนการศึกษา STEM ผ่านการจัดตั้งศูนย์วิจัยและการให้ทุนการศึกษา
การฝึกอบรมครู: มีการฝึกอบรมครูเพื่อให้สามารถสอน STEM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาทักษะของครูในสาขา STEM

7. ออสเตรเลีย

การสนับสนุนจากรัฐบาล: รัฐบาลออสเตรเลียมีการสนับสนุนการศึกษา STEM ผ่านโครงการและทุนการศึกษาต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในสาขาเหล่านี้
การบูรณาการในหลักสูตร: STEM ถูกบูรณาการในหลักสูตรการศึกษาทุกระดับ และมีการจัดกิจกรรมและการแข่งขันที่ส่งเสริมการเรียนรู้ STEM
การสนับสนุนจากภาคธุรกิจ: บริษัทในออสเตรเลียมีการสนับสนุนการศึกษา STEM ผ่านโครงการฝึกอบรมและการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ STEM