เด็กนอนหลับเพียงพอ ส่งผลให้เรียนเก่ง 

สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ของสหรัฐฯ ออกแคมเปญในการชักชวน ให้เด็กๆ ใช้เวลานอนหลับให้มากขึ้น สมัยก่อนสถาบันสุขภาพแห่งนี้ได้เน้นเป้าหมายไปยังพนักงานขับรถ, บรรดาทหารหาญทั้งหลาย และนักบินอวกาศ เพื่อสื่อสารให้ทราบว่า การนอนหลับอย่างเต็มที่จะทำให้พวกเขา ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสุขภาพดี แต่ปัจจุบันทางสถาบันสุขภาพฯ ได้สื่อสารมายังกลุ่มเด็กอายุ 7 - 11 ขวบ

โดยมร.คาร์ล ฮันท์ ผอ. ศูนย์วิจัยเรื่องปัญหาการนอนหลับของสถาบันสุขภาพฯ ให้ความเห็นว่า ไม่ว่าเด็กๆ จะทำอะไร หากได้รับการนอนหลับพักผ่อนเต็มที่ พวกเขาจะทำกิจกรรมเหล่านั้นได้ดีขึ้น เด็กที่นอนหลับ เป็นเวลา 9 ชั่วโมงโดยสม่ำเสมอจะเรียนหนังสือดี, มีอารมณ์แจ่มใส, ประสบอุบัติเหตุน้อยลง และมีโอกาสน้อย ที่จะกลายเป็นเด็กอ้วน นอกจากนั้น การที่เด็กอดนอน ซึ่งไม่เหมือนผู้ใหญ่อย่างเรา จะทำให้เด็กคนนั้นมีพฤติกรรม คล้ายๆ พวกเด็กไฮเปอร์แอคทีฟ ทำให้นำไปสู่การรักษาผิดทาง คือคิดว่าอาการของเด็กอดนอนเหล่านี้เป็นเด็ก ADHD (Attention deficit/hyperactivity disorder)

ทุกวันนี้ เด็กส่วนใหญ่นอนหลับพักผ่อนเพียง 7 - 8 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ทางสถาบันสุขภาพฯ จึงต้องการสนับสนุน ความคิดที่จะให้เด็กนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนที่เด็กจะเริ่มก้าวเข้าสู่วัยรุ่น ทั้งนี้จากการวิจัยพบว่า เด็กจะมีการ เปลี่ยนแปลงทางชีวภาพเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น โดยจะเข้านอนดึกขึ้น ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบต่อการเรียนและ พฤติกรรมในโรงเรียน โรงเรียนมัธยมบางแห่งจึงเลื่อนเวลาเข้าเรียนจาก 7.15 น. มาเป็น 8.40 น. แทน

นอกจากที่สถาบันสุขภาพฯ แนะนำให้เด็กๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ โดยที่เด็กวัย 7 - 11 ขวบ ควรนอนหลับ ให้ได้ 9 ชั่วโมง ยังแนะนำเพิ่มเติมว่า ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงนอนร่วมกับเด็ก และให้เด็กอ่านหนังสือนิทาน ก่อนนอน ดีกว่าให้ดูทีวีจนหลับไป ก่อนนอนไม่ควรรับประทานอาหารหนักๆ และดื่มเครื่องดื่มที่มีโซดาผสม เพราะจะ กระตุ้นร่างกายให้กระฉับกระเฉงจนไม่อยากหลับ